ดวงแก้ววิเศษ
ธรรมดา.คือความเปนจริงที่สิ่งที่เกิดขื้นและสิ่งที่ยังไม่เกิดทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเปนความจริงแห่งโลก.เกิดแก่เจ็บตาย.ความทุกข์สุข
ปล่อยวาง.คือละสิ่งนั้นไม่สนใจสิ่งนั้น.ไม่คิดสิ่งนั้น.ไม่ถือสิ่งนั้น.ไม่ยึดมั่นในสิ่งนั้น.ไม่ยึดมั่นทุกขและสุข
พอใจ.คือพอใจสิ่งที่ตนได้มาโดยสุจริต.พอใจสิ่งที่ตนมีอยู่.พอใจสิ่งที่ตนเปนอยู่.พอใจสิ่งที่ตนได้รับผลนั้น.พอใจสิ่งที่เกิดขื้นแล้วกับตน.พอใจสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของตนโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ
อะลุ่มอะหลุ่ย.คือไม่ห้ามสิ่งนั้นที่เข้ามาหาในชีวิต.ผ่อนตน.ไม่มีกฏตายตัว
แมตตา.คือความรักต่อผู้อื่นโดยปราศจากหวังผลสิ่งตอบแทน.เข้าใจชีวิตผู้อื่น.เข้าใจรู้ความรุ้สึกต่อตนและผู้อื่น
อภัย.คือให้อภัยต่อตนเองและผู้อื่นอยู่เสมอ.ไม่เพ่งโทษต่อตนและผู้อื่น.ยกโทษต่อตนและผู้อื่น
ปราถนาดี.คือมีความปราถนาดีต่อตนและผู้อื่น.
ปราโมท.คือมีความบันเทิงในใจ.มีความรื่นเริงในจิต
ปิติ.คือความอิ่มเอิบใจ
วิธีใช้งานดังนี้
หายใจเข้าทางจมูกยาวๆลึกๆช้าๆ.หายใจออกทางปากเเละจมูกพร้อมๆกันยาวๆลึกๆช้า.ทำอย่างนี้ชัก15-20ครั้ง
สมมุตว่าถ้าเรามีความคิดเรื่องความกลัว
ไม่ว่าเราจะกลัวอะไรก้ตาม
ให้เราตั้งสติเอาจิตไปเพ่งพินิจพิจารนาว่าคนเราทุกคนและสัตว์เดรัจฉานและตัวเราเองล้วนมีแต่ความกลัวกันทุกชีวิตความกลัวนี้มันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองในเมื่อความความกลัวที่เกิดกับตัวเราแล้วเราต้องมีความพอใจในความกลัวครั้งนี้
ในเมื่อเรามีความพอใจในความกลัวแล้วให้เราปล่อยวาง.วิธีปล่อยวางให้ทำดังให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าพร้อมคำบริกรรมว่าทำมะดาหายใจเข้าว่าทำ.หายใจออกว่ามะดาให้ทำไปเรื่อยๆอย่าไปสนใจในความคิดความกลัวถ้ามีความคิดความเข้ามาอีก
ให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าพร้อมคำบริกรรมว่าทำมะดาหายใจเข้าว่าทำ.หายใจออกว่ามะดาให้ทำไปเรื่อยๆไม่ว่ายืนเดินนั่งนอนให้ทำตลอดทั้งวันอย่าไปสนใจในความคิดมันถ้าเรายังมีความรุ้สึกความคิดนั้นอยู่ก้ปล่อยมันอยู่กับตัวเรานี้มันจะไปหรือจะอยู่กับตัวเราก้ปล่อยมันไม่ต้องไปสนใจให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าพร้อมคำบริกรรมว่าทำมะดาหายใจเข้าว่าทำ.หายใจออกว่ามะดาให้ทำไปเรื่อยๆอย่าไปสนใจในความรู้สึกนั้นอย่าไปคิดตามความรุ้สึกนั้นๆอย่าไปตกใจในความรุ้สึกนั้นๆอีกไม่นานความรุ้สึกนั้นๆก้จะจางคายหายไปทีละนิดทีละหน่อยแต่ต้องเวลานานเราต้องเวลากับอีกอย่างอย่าไปคาดหวังในการปล่อยวางในการมารับรู้ลมหาใจเข้าออกและคำบริกรรมนี้เพื่อให้ความรุ้สึกนั้นความคิดนั้นๆให้มันหายไปจากตัวเราอย่าคิดแบบนี้เปนเด็ดขาดถ้ามันไม่หายจากตัวเรามันจะเพิ่มความทุกข์เพิ่มความฟุ่งซ่านใจเราไม่สงบให้คิดว่าเพื่อปล่อยวางเฉยๆทำเพื่อให้เรามีสติเอาจิตมารับรุ้ลมหายใจเข้าออกและคำบริกรรม.หายใจเข้าว่าทำหายออกว่ามะดาทำไปเรื่อยๆถ้ามีความคิดความรุ้สึกอื่นๆอะไรแทรกเข้ามาก้ให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับลมหายใจเข้าออกฯตลอดเวลาถ้ามีความคิดความรุ้สึกอื่นแทรกเข้ามาในความคิดให้เราให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารับรู้เหนได้ยินได้ฟังได้สัมพผัสทุกๆเรื่องไม่ว่าเปนเรื่องดีหรือร้ายก้ตามให้เราให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองให้เราปล่อยวางแล้วให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าออกและคำบริกรรมว่าธรรมดา.หายใจเข้าว่าทำหายใจออกว่ามะดาทำไเรื่อยๆ
คำว่าทำ..หมายถึงการกระทำในความดี.ได้กระทำความดีงามแล้ว.ได้กระทำสิ่งที่ดีแล้ว.ได้กระทำในการรับรุ้เรียนรู้และเข้าใจว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างๆสิ่งที่เกิดขื้นกับตัวเราเองและผู้อื่นนั้นมันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เอง
คำว่ามะ.หมายถึงผลแห่งความดีของเรา
คำว่าดา.หมายถึงสิ่งที่เราได้กระทำครั้งนี้ตอนนี้ขนะนี้อยู่มันประเมินค่าไม่ได้มันมีค่ามากเกินจนนับประมานมิได้
สมมุติว่า.ถ้าเรามีความคิดอื่น.ความรุ้สึกอื่นๆเข้ามาเช่นความน้อยใจ.ความเครียด.
ความหงุดหงิด.ความเศร้าโศกเสียใจ.มีความทุกข์ต่างๆ.ความกลุ้มอกกลุ้มใจ.และมีความต่างๆอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวมานี้ทั้งหมด.ถ้าเรามีอาการใดอาการหนึ่งแทรกเข้ามาในสมองของให้เราดึงสติเอาจิตมาพิจารนาใครครวญว่าสิ่งที่เกิดขื้นกับเรานั้นไม่ว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งนั้นมันเกิดขื้นเเล้วมันเปนไปแล้วให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเปนเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองเราต้องพอใจที่จะอยู่กับมันให้ได้เราจะต้องพิจารนาใคร่ครวญอยู่อย่างให้มากๆบ่อยๆเพื่อให้เราได้คุ้นเคยและเข้ากับเรื่องธรรมดากับความพอใจในการอยู่กับมันและยอมรับมัน.เราได้พิจารนาอย่างนี้ดีแล้วให้เราปล่อยวางสิ่งที่เกิดขื้นในตอนนี้ในขนะนี้อยู่เราก้ต้องปล่อยวาง.ปล่อยวาวด้วยการดึงสติเอาจิตมาอยู่กับการรับรู้ลมหายใจเข้าออกและคำบริกรรมว่าธรรมดา.หายใจเข้าทำหายใจออกมะดาทำไปเรื่อยๆไม่ว่ายืนเดินนั่งนอนไม่ว่าทำอะไรก้ตามยกเว้นงานที่จะต้องใช้ความคิดพิจารนางานเสร็จแล้วให้กลับมารับรุ้ลมหายใจเข้าออกฯให้ทำตลอดทั้งวันถ้าเผลอลืม
ให้คิดว่าให้ถือว่ามันเป็นสิ่งของเปนเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองนึกขื้นเมื่อไรก้ให้ทำทุกครั้งไปไม่ตอ้งรีบเร่งทำช้าๆทำเบาๆทำสบายๆทำใจเยนๆทำไปเรื่อยๆ
ถ้ามีความคิดลบหรือความรุ้สึกที่เปนลบเข้ามาโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจอะไรก้แล้วแต่ให้เรารีบบอกมันว่ามันเปนธรรมดาดีๆนี้เองให้ทำทุกๆครั้งที่มีความคิดลบความรุ้สึกที่เปนลบทีเข้ามาหาเราแล้วให้เรากลับมารับรุ้ลมหายใจเข้าออกฯตามเดิม
อีกอย่างเราอย่าห้ามอย่าปฏิเสธอย่าไล่ความคิดและความรุ้สึกนั้นๆเข้ามาหาเราเพาะทำให้เราเพิ่มกิเลสเพิ่มความฟุ้งช่านถ้าเราไม่ต้องการมันมันทำให้มีทุกมากๆขื้นเรื่อยๆเราจะอยู่ไม่สุขกระวนกระวายใจเราก้ต้องยอมรับมันพร้อมที่จะอยู่กับมันให้ได้ให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเปนเรื่องธรรมดาดีๆนี้เอง.แล้วให้เราดึงสติเอาจิตกลับรับรุ้ลมหายใจเข้าออกฯตามเดิมถ้ามีความรุ้สึกนั้นอยู่ให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าพร้อมคำบริกรรมว่าทำมะดาหายใจเข้าว่าทำ.หายใจออกว่ามะดาให้ทำไปเรื่อยๆอย่าไปสนใจในความคิดมันถ้าเรายังมีความรุ้สึกความคิดนั้นอยู่ก้ปล่อยมันอยู่กับตัวเรานี้มันจะไปหรือจะอยู่กับตัวเราก้ปล่อยมันไม่ต้องไปสนใจให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าพร้อมคำบริกรรมว่าทำมะดาหายใจเข้าว่าทำ.หายใจออกว่ามะดาให้ทำไปเรื่อยๆอย่าไปสนใจในความรู้สึกนั้นอย่าไปคิดตามความรุ้สึกนั้นๆอย่าไปตกใจในความรุ้สึกนั้นๆอีกไม่นานความรุ้สึกนั้นๆก้จะจางคายหายไปทีละนิดทีละหน่อยแต่ต้องเวลานานเราต้องเวลากับอีกอย่างอย่าไปคาดหวังในการปล่อยวางในการมารับรู้ลมหาใจเข้าออกและคำบริกรรมนี้เพื่อให้ความรุ้สึกนั้นความคิดนั้นๆให้มันหายไปจากตัวเราอย่าคิดแบบนี้เปนเด็ดขาดถ้ามันไม่หายจากตัวเรามันจะเพิ่มความทุกข์เพิ่มความฟุ่งซ่านใจเราไม่สงบให้คิดว่าเพื่อปล่อยวางเฉยๆทำเพื่อให้เรามีสติเอาจิตมารับรุ้ลมหายใจเข้าออกและคำบริกรรม.หายใจเข้าว่าทำหายออกว่ามะดาทำไปเรื่อยๆถ้ามีความคิดความรุ้สึกอื่นๆอะไรแทรกเข้ามาก้ให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับลมหายใจเข้าออกฯตลอดเวลาถ้ามีความคิดความรุ้สึกอื่นแทรกเข้ามาในความคิดให้เราให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองทุกสิ่งทุกอย่างที่เรารับรู้เหนได้ยินได้ฟังได้สัมพผัสทุกๆเรื่องไม่ว่าเปนเรื่องดีหรือร้ายก้ตามให้เราให้คิดว่าให้ถือว่ามันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เองให้เราปล่อยวางแล้วให้เราดึงสติเอาจิตกลับมารับรู้ลมหายใจเข้าออกและคำบริกรรมว่าธรรมดา.หายใจเข้าว่าทำหายใจออกว่ามะดาทำไเรื่อยๆ
คำว่าทำ..หมายถึงการกระทำในความดี.ได้กระทำความดีงามแล้ว.ได้กระทำสิ่งที่ดีแล้ว.ได้กระทำในการรับรุ้เรียนรู้และเข้าใจว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างๆสิ่งที่เกิดขื้นกับตัวเราเองและผู้อื่นนั้นมันเปนสิ่งของเรื่องธรรมดาดีๆนี้เอง
คำว่ามะ.หมายถึงผลแห่งความดีของเรา
คำว่าดา.หมายถึงสิ่งที่เราได้กระทำครั้งนี้ตอนนี้ขนะนี้อยู่มันประเมินค่าไม่ได้มันมีค่ามากเกินจนนับประมานมิได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น