พระธรรมคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563

พระธรรม

                   ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
            การค้นหาคำว่า “ ธรรม ”             ผลการค้นหาพบมากกว่า  80  ตำแหน่ง ดังนี้ :-

แสดงผลการค้น ลำดับที่  1 / 80
ธรรมสามิสร ดู ธรรมสวามิศร

แสดงผลการค้น ลำดับที่  2 / 80
ธรรมสามี ผู้เป็นเจ้าของธรรม เป็นคำเรียกพระพุทธเจ้า

แสดงผลการค้น ลำดับที่  3 / 80
ธรรมเสนา กองทัพธรรม, กองทัพพระสงฆ์ผู้ประกาศพระศาสนา

แสดงผลการค้น ลำดับที่  4 / 80
ธรรมเสนาบดี แม่ทัพธรรม, ผู้เป็นนายทัพธรรม
       เป็นคำเรียกยกย่องพระสารีบุตร ซึ่งเป็นกำลังใหญ่ของพระศาสนาในการประกาศพระศาสนา

แสดงผลการค้น ลำดับที่  5 / 80
ธรรมันเตวาสิก อันเตวาสิกผู้เรียนธรรมวินัย, ศิษย์ผู้เรียนธรรมวินัย;
       คู่กับ อุทเทศาจารย์

แสดงผลการค้น ลำดับที่  6 / 80
ธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่,
       ถือหลักการ ความจริง ความถูกต้อง ความดีงานและเหตุผลเป็นใหญ่ ทำการด้วยปัญญา โดยเคารพหลักการ กฎ ระเบียบ กติกา มุ่งเพื่อความดีงาม ความจริง ความชอบธรรมเป็นประมาณ;
       ดู อธิปไตย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  7 / 80
ธรรมาธิษฐาน มีธรรมเป็นที่ตั้ง คือ เทศนายกธรรมขึ้นแสดง เช่นว่า ศรัทธา ศีล คืออย่างนี้ ธรรมที่ประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้ ดังนี้เป็นต้น;
       คู่กับ บุคคลาธิษฐาน

แสดงผลการค้น ลำดับที่  8 / 80
ธรรมานุธรรมปฏิบัติ การประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม
       หมายถึง การปฏิบัติธรรมถูกต้องตามหลัก เช่น หลักย่อยสอดคล้องกับหลักใหญ่ และเข้าแนวกับธรรมที่เป็นจุดมุ่งหมาย,
       ปฏิบัติถูกต้องตามกระบวนธรรม;
       ดู วุฑฒิ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  9 / 80
ธรรมาภิสมัย การตรัสรู้ธรรม, การสำเร็จมรรคผล

แสดงผลการค้น ลำดับที่  10 / 80
ธรรมารมณ์ อารมณ์ทางใจ, สิ่งที่ใจนึกคิด

แสดงผลการค้น ลำดับที่  11 / 80
ธรรมาสน์ ที่สำหรับนั่งแสดงธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  12 / 80
ธรรมิกอุบาย อุบายที่ประกอบด้วยธรรม, อุบายที่ชอบธรรม, วิธีที่ถูกธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  13 / 80
ธรรมิศราธิบดี ผู้เป็นอธิบดีโดยฐานเป็นใหญ่ในธรรม หมายถึงพระพุทธเจ้า (คำกวี)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  14 / 80
ธรรมีกถา ถ้อยคำที่ประกอบด้วยธรรม, การพูดหรือสนทนาเกี่ยวกับธรรม, คำบรรยายหรืออธิบายธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  15 / 80
ธรรมุเทศ ธรรมที่แสดงขึ้นเป็นหัวข้อ, หัวข้อธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  16 / 80
ธัมมทินนา พระเถรีมหาสาวิกาองค์หนึ่ง เป็นกุลธิดาชาวพระนครราชคฤห์
       เป็นภรรยาของวิสาขเศรษฐี มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาบวชในสำนักนางภิกษุณี บำเพ็ญเพียรไม่นานก็ได้สำเร็จพระอรหัต
       ได้รับยกย่องว่า เป็นเอตทัคคะในทางเป็นธรรมกถึก
       (เขียน ธรรมทินนา ก็มี)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  17 / 80
นาถกรณธรรม ธรรมทำที่พึ่ง, ธรรมสร้างที่พึ่ง,
       คุณธรรมที่ทำให้พึ่งตนได้ มี ๑๐ อย่าง คือ
           ๑. ศีล มีความประพฤติดี
           ๒. พาหุสัจจะ ได้เล่าเรียนสดับฟังมาก
           ๓. กัลยาณมิตตตา มีมิตรดีงาม
           ๔. โสวจัสสตา เป็นคนว่าง่าย ฟังเหตุผล
           ๕. กิงกรณีเยสุ ทักขตา เอาใจใส่กิจธุระของเพื่อนร่วมหมู่คณะ
           ๖. ธัมมกามตา เป็นผู้ใคร่ธรรม
           ๗. วิริยะ ความขยันหมั่นเพียร
           ๘. สันตุฏฐี มีความสันโดษ
           ๙. สติ มีสติ
           ๑๐. ปัญญา มีปัญญาเข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง

แสดงผลการค้น ลำดับที่  18 / 80
นามธรรม สภาวะที่น้อมไปหาอารมณ์,
       ใจและอารมณ์ที่เกิดกับใจ คือ จิต และเจตสิก,
       สิ่งของที่ไม่มีรูป คือรู้ไม่ได้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แต่รู้ได้ทางใจ;
       ดู นาม;
       คู่กับ รูปธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  19 / 80
นิวรณ์, นิวรณธรรม ธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุความดี,
       สิ่งที่ขัดขวางจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณธรรม มี ๕ อย่าง คือ
           ๑. กามฉันท์ พอใจในกามคุณ
           ๒. พยาบาท คิดร้ายผู้อื่น
           ๓. ถีนมิทธะ ความหดหู่ซึมเซา
           ๔. อุทธัจจกุกกุจจะ ความฟุ้งซ่านและรำคาญ
           ๕. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  20 / 80
เบญจธรรม ธรรม ๕ ประการ,
       ความดี ๕ อย่างที่ควรประพฤติคู่กันไปกับการรักษาเบญจศีลตามลำดับข้อดังนี้
           ๑. เมตตากรุณา
           ๒. สัมมาอาชีวะ
           ๓. กามสังวร (สำรวมในกาม)
           ๔. สัจจะ
           ๕. สติสัมปชัญญะ ;
       บางตำราว่าแปลกไปบางข้อคือ
           ๒. ทาน
           ๓. สทารสันโดษ = พอใจเฉพาะภรรยาของตน
           ๕. อัปปมาทะ = ไม่ประมาท ;
       เบญจกัลยาณธรรม ก็เรียก

แสดงผลการค้น ลำดับที่  21 / 80
ปฏิบัติสัทธรรม ดู สัทธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  22 / 80
ปฏิเวธสัทธรรม ดู สัทธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  23 / 80
ปรมัตถธรรม สภาวะที่มีอยู่โดยปรมัตถ์,
       สิ่งที่เป็นจริงโดยความหมายสูงสุด ตามหลักอภิธรรมว่ามี ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

แสดงผลการค้น ลำดับที่  24 / 80
ปริยัติสัทธรรม ดู สัทธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  25 / 80
ผาสุวิหารธรรม ธรรมเป็นเครื่องอยู่สบาย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  26 / 80
พร้อมหน้าธรรมวินัย (ระงับอธิกรณ์) โดยนำเอาธรรมวินัย และสัตถุศาสน์ที่เป็นหลักสำหรับระงับอธิกรณ์นั้นมาใช้โดยครบถ้วน คือวินิจฉัยถูกต้องโดยธรรมและถูกต้องโดยวินัย
       (ธัมมสัมมุขตา วินยสัมมุขตา)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  27 / 80
พระธรรม คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลักความจริงและหลักความประพฤติ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  28 / 80
พุทธการกธรรม ธรรมที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า ตามปกติหมายถึง บารมี ๑๐ นั่นเอง
       (ในคาถาบางทีเรียกสั้นๆ ว่า พุทธธรรม)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  29 / 80
พุทธธรรม
       1. ธรรมของพระพุทธเจ้า, พระคุณสมบัติของพระพุทธเจ้า คัมภีร์มหานิทเทศระบุจำนวนไว้ว่ามี ๖ ประการ แต่ไม่ได้จำแนกข้อไว้ อรรถกถาโยงความให้ว่าได้แก่
           ๑. กายกรรมทุกอย่างของพระพุทธเจ้าเป็นไปตามพระญาณ (จะทำอะไรก็ทำด้วยปัญญา ด้วยความรู้เข้าใจ)
           ๒. วจีกรรมทุกอย่างเป็นไปตามพระญาณ
           ๓. มโนกรรมทุกอย่างเป็นไปตามพระญาณ
           ๔. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในอดีต
           ๕. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในอนาคต
           ๖. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในปัจจุบัน;
       คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาแห่งทีฆนิกาย จำแนกพุทธธรรมว่ามี ๑๘ อย่าง คือ
           ๑. พระตถาคตไม่ทรงมีกายทุจริต
           ๒. ไม่ทรงมีวจีทุจริต
           ๓. ไม่ทรงมีมโนทุจริต
           ๔. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในอดีต
           ๕. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในอนาคต
           ๖. ทรงมีพระญาณไม่ติดขัดในปัจจุบัน
           ๗. ทรงมีกายกรรมทุกอย่างเป็นไปตามพระญาณ
           ๘. ทรงมีวจีกรรมทุกอย่างเป็นไปตามพระญาณ
           ๙. ทรงมีมโนกรรมทุกอย่างเป็นไปตามพระญาณ
           ๑๐. ไม่มีความเสื่อมฉันทะ (ฉันทะไม่ลดถอย)
           ๑๑. ไม่มีความเสื่อมวิริยะ (ความเพียรไม่ลดถอย)
           ๑๒. ไม่มีความเสื่อมสติ (สติไม่ลดถอย)
           ๑๓. ไม่มีการเล่น
           ๑๔. ไม่มีการพูดพลาด
           ๑๕. ไม่มีการทำพลาด
           ๑๖. ไม่มีความผลุนผลัน
           ๑๗. ไม่มีพระทัยที่ไม่ขวนขวาย
           ๑๘. ไม่มีอกุศลจิต
       2. ธรรมที่ทำให้เป็นพระพุทธเจ้า ได้แก่พุทธการกธรรม คือบารมี ๑๐
       3. ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ คือ สติปัฏฐาน ๔ ฯลฯ มรรคมีองค์ ๘ ขันธ์ ๕ ปัจจัย ๒๔ เป็นอาทิ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  30 / 80
โพธิปักขิยธรรม ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้,
       ธรรมที่เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี ๓๗ ประการ
       คือ สติปัฏฐาน ๔สัมมัปปธาน ๔อิทธิบาท ๔อินทรีย์ ๕พละ ๕โพชฌงค์ ๗มรรคมีองค์ ๘

แสดงผลการค้น ลำดับที่  31 / 80
มนุษยธรรม ธรรมที่ทำคนให้เป็นมนุษย์ ได้แก่ ศีล ๕ และคุณธรรม เช่น เมตตา กรุณา เป็นต้น

แสดงผลการค้น ลำดับที่  32 / 80
มรณธรรม มีความตายเป็นธรรมดา, ธรรมคือความตาย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  33 / 80
โมกขธรรม ธรรมนำสัตว์ให้หลุดพ้นจากกิเลส, ความหลุดพ้น, นิพพาน

แสดงผลการค้น ลำดับที่  34 / 80
ยุติธรรม ความเที่ยงธรรม, ความชอบธรรม, ความชอบด้วยเหตุผล

แสดงผลการค้น ลำดับที่  35 / 80
เยวาปนกธรรม “ก็หรือว่าธรรมแม้อื่นใด”
       หมายถึงธรรมจำพวกที่กำหนดแน่ไม่ได้ว่าข้อไหนจะเกิดขึ้น ได้แก่ เจตสิก ๑๖
       เป็นพวกที่เกิดในกุศลจิต ๙ คือ
           ๑. ฉันทะ ๒. อธิโมกข์ ๓. มนสิการ ๔. อุเบกขา (ตัตรมัชฌัตตตา) ๕. กรุณา ๖. มุทิตา ๗. สัมมาวาจา (วจีทุจริตวิรัติ) ๘. สัมมากัมมันตะ (กายทุจริตวิรัติ) ๙. สัมมาอาชีวะ (มิจฉาชีววิรัติ)
       เป็นพวกที่เกิดในอกุศลจิต ๑๐ คือ
           ๑. ฉันทะ ๒. อธิโมกข์ ๓. มนสิการ ๔. มานะ ๕. อิสสา ๖. มัจฉริยะ ๗. ถีนะ ๘. มิทธะ ๙. อุทธัจจะ ๑๐. กุกกุจจะ
       นับเฉพาะที่ไม่ซ้ำ (คือเว้น ๓ ข้อแรก) เป็น ๑๖

แสดงผลการค้น ลำดับที่  36 / 80
โยคเกษม, โยคเกษมธรรม “ธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะ”
       ความหมายสามัญว่า ความปลอดโปร่งโล่งใจหรือสุขกายสบายใจ เพราะปราศจากภัยอันตรายหรือล่วงพ้นสิ่งที่น่าพรั่นกลัว มาถึงสถานที่ปลอดภัย;
       ในความหมายขั้นสูงสุด มุ่งเอาพระนิพพาน อันเป็นธรรมที่เกษมคือโปร่งโล่งปลอดภัยจากโยคกิเลสทั้ง ๔ จำพวก;
       ดู โยคะเกษมจากโยคธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  37 / 80
โยคธรรม ธรรมคือกิเลสเครื่องประกอบในข้อความว่า “เกษมจากโยคธรรม” คือความพ้นภัยจากกิเลส;
       ดู โยคะ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  38 / 80
รัฏฐานุบาลโนบายราชธรรม ธรรมของพระราชา ซึ่งเป็นวิธีปกครองบ้านเมือง, หลักธรรมสำหรับพระราชาใช้เป็นแนวปกครองบ้านเมือง

แสดงผลการค้น ลำดับที่  39 / 80
ราชธรรม ธรรมสำหรับพระเจ้าแผ่นดิน,
       คุณสมบัติของนักปกครองที่ดี สามารถปกครองแผ่นดินโดยธรรม และยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่ประชาชนจนเกิดความชื่นชมยินดี
       มี ๑๐ ประการ (นิยมเรียกว่า ทศพิธราชธรรม) คือ
           ๑. ทาน การให้ทรัพย์สินสิ่งของ
           ๒. ศีล ประพฤติดีงาม
           ๓. ปริจจาคะ ความเสียสละ
           ๔. อาชชวะ ความซื่อตรง
           ๕. มัททวะ ความอ่อนโยน
           ๖. ตบะ ความทรงเผากิเลสตัณหา ไม่หมกมุ่นในความสุขสำราญ
           ๗. อักโกธะ ความไม่กริ้วโกรธ
           ๘. อวิหิงสา ความไม่ข่มเหงเบียดเบียน
           ๙. ขันติ ความอดทนเข็มแข็งไม่ท้อถอย
           ๑๐. อวิโรธนะ ความไม่คลาดธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  40 / 80
รูปธรรม สิ่งที่มีรูป, สภาวะที่เป็นรูป;
       คู่กับ นามธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  41 / 80
ลักษณะตัดสินธรรมวินัย ดู หลักตัดสินธรรมวินัย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  42 / 80
ลัชชีธรรม ธรรมแห่งบุคคลผู้ละอายต่อบาป

แสดงผลการค้น ลำดับที่  43 / 80
โลกธรรม ธรรมที่มีประจำโลก, ธรรมดาของโลก,
       ธรรมที่ครอบงำสัตว์โลก และสัตว์โลกก็เป็นไปตามมัน มี ๘ อย่าง
       คือ มีลาภ ไม่มีลาภ มียศ ไม่มียศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์

แสดงผลการค้น ลำดับที่  44 / 80
โลกบาลธรรม ธรรมคุ้มครองโลก คือ ปกครองควบคุมใจมนุษย์ไว้ให้อยู่ในความดี มิให้ละเมิดศีลธรรม และให้อยู่กันด้วยความเรียบร้อยสงบสุข ไม่เดือดร้อนสับสนวุ่นวาย มี ๒ คือ
       ๑. หิริ ความละอายบาป ละอายใจต่อการทำความชั่ว
       ๒. โอตตัปปะ ความกลัวบาป เกรงกลัวต่อความชั่วและผลของกรรมชั่ว

แสดงผลการค้น ลำดับที่  45 / 80
โลกิยธรรม ธรรมอันเป็นวิสัยของโลก, สภาวะเนื่องในโลก ได้แก่ขันธ์ ๕ ที่ยังมีอาสวะทั้งหมด;
       คู่กับ โลกุตตรธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  46 / 80
โลกุตตรธรรม ธรรมอันมิใช่วิสัยของโลก, สภาวะพ้นโลก
       มี ๙ ได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑;
       คู่กับ โลกิยธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  47 / 80
วัฑฒิ, วัฑฒิธรรม หลักความเจริญ (ของอารยชน);
       ดู อริยวัฑฒิ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  48 / 80
วิหารธรรม ธรรมเป็นเครื่องอยู่, ธรรมประจำใจ, ธรรมที่เป็นหลักใจในการดำเนินชีวิต

แสดงผลการค้น ลำดับที่  49 / 80
วุฑฒิ ธรรมเป็นเครื่องเจริญ, ธรรมเป็นเหตุให้ถึงความเจริญ มี ๔ อย่าง คือ
       ๑. สัปปุริสสังเสวะ คบหาสัตบุรุษ
       ๒. สัทธัมมัสสวนะ ฟังสัทธรรม
       ๓. โยนิโสมนสิการ ทำในใจโดยแยบคาย
       ๔. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ ปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม,
       เรียกและเขียนเป็นวุฒิบ้าง วุฑฒิธรรมบ้าง วุฒิธรรมบ้าง,
       ในบาลีเรียกว่า ธรรมที่เป็นไปเพื่อปัญญาวุฑฒิ หรือ ปัญญาวุฒิ คือ เพื่อความเจริญแห่งปัญญา

แสดงผลการค้น ลำดับที่  50 / 80
เวสารัชชกรณธรรม ธรรมทำความกล้าหาญ, ธรรมเป็นเหตุให้กล้าหาญ,
       คุณธรรมที่ทำให้เกิดความแกล้วกล้า มี ๕ อย่าง คือ
           ๑. ศรัทธา เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ
           ๒. ศีล มีความประพฤติดีงาม
           ๓. พาหุสัจจะ ได้สดับหรือศึกษามาก
           ๔. วิริยารัมภะ เพียรทำกิจอยู่อย่างจริงจัง
           ๕. ปัญญา รู้รอบและรู้ชัดเจนในสิ่งที่ควรรู้

แสดงผลการค้น ลำดับที่  51 / 80
ศีลธรรม
       ความประพฤติที่ดีที่ชอบ, ความประพฤติดีงาม;
       นิยมแปลกันว่า ศีลและธรรม โดยถือว่า
           ศีล หมายถึง เว้นชั่วหรือเว้นจากข้อห้าม
           ธรรม หมายถึง ประพฤติดี หรือทำตามคำแนะนำสั่งสอน,
       แต่แปลตามหลักว่า ธรรมขั้นศีล เพราะศีลเป็นธรรมอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับสมาธิและปัญญา (ในไตรสิกขา)
       ความประพฤติดีงามทางกายวาจา, ความประพฤติที่ดีที่ชอบ, ความสุจริตทางกายวาจาและอาชีวะ;
       โดยทางศัพท์ ศีลธรรม แปลว่า “ธรรมคือศีล” หมายถึง ธรรมขั้นศีล หรือธรรมในระดับศีล เพราะศีลเป็นธรรมอย่างหนึ่ง ในบรรดาธรรมภาคปฏิบัติ ๓ อย่าง คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ดังนั้นต่อจากธรรมขั้นศีล จึงมีธรรมขั้นสมาธิ และธรรมขั้นปัญญา;
       ได้มีผู้พยายามแปลศีลธรรม อีกอย่างหนึ่งว่า “ศีลและธรรม” (ถ้าแปลให้ถูกต้องจริงต้องว่าศีลและธรรมอื่นๆ คือศีลและธรรมอื่นๆ นอกจากศีล เช่น สมาธิ และปัญญา เป็นต้น เพราะศีลก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง)
       ถ้าแปลอย่างนี้ จะต้องเข้าใจว่า ศีลธรรม มิใช่เป็นเพียงความประพฤติดีงามเท่านั้น แต่รวมถึง สมถะวิปัสสนา ขันธ์ ๕ ปฏิจจสมุปบาท ไตรลักษณ์ เป็นต้น ด้วย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  52 / 80
สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  53 / 80
สวากขาตธรรม พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว คือ ตรัสได้จริง ไม่วิปริต ไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด

แสดงผลการค้น ลำดับที่  54 / 80
สวากขาตนิยยานิกธรรม ธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว นำผู้ประพฤติตามให้ออกไปจากทุกข์

แสดงผลการค้น ลำดับที่  55 / 80
สหชาตธรรม ธรรมที่เกิดพร้อมกัน

แสดงผลการค้น ลำดับที่  56 / 80
สหธรรมิก ผู้มีธรรมร่วมกัน, ผู้ประพฤติธรรมร่วมกัน แสดงไว้ในคัมภีร์มหานิทเทส แห่งพระสุตตันตปิฎก มี ๗ คือ ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา;
       ในสัตตาหกรณียะ หมายถึง ๕ อย่างแรกเท่านั้น เรียกว่า สหธรรมิก ๕
       (คัมภีร์ฝ่ายวินัยทั่วไปก็มักหมายเฉพาะจำนวน ๕)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  57 / 80
สหธรรมิกวรรค ตอนที่ว่าด้วยเรื่องภิกษุถูกว่ากล่าวโดยชอบธรรม เป็นต้น เป็นวรรคที่ ๘ แห่งปาจิตติยกัณฑ์ มี ๑๒ สิกขาบท

แสดงผลการค้น ลำดับที่  58 / 80
สังขตธรรม ธรรมที่ถูกปัจจัยปรุงแต่งขึ้น ตรงกับสังขารในคำว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง ดังนี้เป็นต้น;
       ตรงข้ามกับ อสังขตธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  59 / 80
สัจธรรม, สัจจธรรม ธรรมที่จริงแท้, หลักสัจจะ เช่น ในคำว่า “อริยสัจจธรรมทั้งสี่”

แสดงผลการค้น ลำดับที่  60 / 80
สัทธรรม ธรรมที่ดี, ธรรมที่แท้, ธรรมของคนดี,
       ธรรมของสัตบุรุษมี สัทธรรม ๓ อย่าง คือ
           ๑. ปริยัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งที่พึงเล่าเรียน ได้แก่ พุทธพจน์
           ๒. ปฏิบัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งพึงปฏิบัติ ได้แก่ไตรสิกขา
           ๓. ปฏิเวธสัทธรรม สัทธรรมคือผลที่พึงบรรลุ ได้แก่ มรรคผล และนิพพาน;
       สัทธรรม ๗ คือ
           ๑. ศรัทธา ๒. หิริ ๓. โอตตัปปะ ๔. พาหุสัจจะ ๕. วิริยารัมภะ ๖. สติ ๗. ปัญญา

แสดงผลการค้น ลำดับที่  61 / 80
สัทธรรมปฏิรูป สัทธรรมปลอม, สัทธรรมเทียม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  62 / 80
สันติวิหารธรรม ธรรมเป็นเครื่องอยู่อย่างสงบ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  63 / 80
สัปปุริสธรรม ธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมของคนดี,
       ธรรมที่ทำให้เป็นสัตบุรุษ มี ๗ อย่าง คือ
           ๑. ธัมมัญญุตา รู้หลักหรือรู้จักเหตุ
           ๒. อัตถัญญุตา รู้ความมุ่งหมายหรือรู้จักผล
           ๓. อัตตัญญุตา รู้จักตน
           ๔. มัตตัญญุตา รู้จักประมาณ
           ๕. กาลัญญุตา รู้จักกาล
           ๖. ปริสัญญุตา รู้จักชุมชน
           ๗. ปุคคลัญญุตา รู้จักบุคคล;
       อีกหมวดหนึ่งมี ๘ อย่างคือ
           ๑. ประกอบด้วย สัทธรรม ๗ ประการ
           ๒. ภักดีสัตบุรษ (คบหาผู้มีสัทธรรม ๗)
           ๓. คิดอย่างสัตบุรุษ
           ๔. ปรึกษาอย่างสัตบุรุษ
           ๕. พูดอย่างสัตบุรุษ
           ๖. ทำอย่างสัตบุรุษ
               (๓, ๔, ๕, ๖ คือ คิด ปรึกษา พูด ทำ มิใช่เพื่อเบียดเบียนตน และผู้อื่น)
           ๗. มีความเห็นอย่างสัตบุรุษ (คือเห็นชอบว่า ทำดีมีผลดี ทำชั่วมีผลชั่วเป็นต้น)
           ๘. ให้ทานอย่างสัตบุรุษ (คือให้โดยเคารพ เอื้อเฟื้อแก่ของและผู้รับทาน เป็นต้น)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  64 / 80
สัมปรายิกัตถะ ประโยชน์ภายหน้า, ประโยชน์ขั้นสูงขึ้นไป อันได้แก่ ความมีจิตใจเจริญงอกงามด้วยคุณธรรมความดี ทำให้ชีวิตนี้มีค่า และเป็นหลักประกันชีวิตในภพหน้า ซึ่งจะสำเร็จได้ด้วยธรรม ๔ ประการ คือ
       ๑. สัทธาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
       ๒. สีลสัมปทา ถึงพร้อมด้วยศีล
       ๓. จาคสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการบริจาค
       ๔. ปัญญาสัมปทา ถึงพร้อมด้วยปัญญา
       ธรรม ๔ อย่างนี้เรียกเต็มว่า สัมปรายิกัตถสังวัตตนิกธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  65 / 80
สัมมัตตะ ความเป็นถูก,
       ภาวะที่ถูกมี ๑๐ อย่าง ๘ ข้อต้น ตรงกับองค์มรรคทั้ง ๘ ข้อ เพิ่ม ๒ ข้อท้าย คือ
           ๙. สัมมาญาณ รู้ชอบ ได้แก่ผลญาณ และปัจจเวกขณญาณ
           ๑๐. สัมมาวิมุตติ พ้นชอบได้แก่อรหัตตผลวิมุตติ;
       เรียกอีกอย่างว่า อเสขธรรม ๑๐,
       ตรงข้ามกับ มิจฉัตตะ ๑๐

แสดงผลการค้น ลำดับที่  66 / 80
สาราณียธรรม ธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความให้ระลึกถึง, ธรรมเป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน ทำให้มีความเคารพกัน ช่วยเหลือกัน และสามัคคีพร้อมเพรียงกันมี ๖ อย่างคือ
       ๑. ตั้งกายกรรมประกอบด้วยเมตตาในเพื่อนภิกษุสามเณร
       ๒. ตั้งวจีกรรมประกอบด้วยเมตตาในเพื่อนภิกษุสามเณร
       ๓. ตั้งมโนกรรมประกอบด้วยเมตตาในเพื่อนภิกษุสามเณร
       ๔. แบ่งปันลาภที่ได้มาโดยชอบธรรม
       ๕. รักษาศีลบริสุทธิ์เสมอกับเพื่อนภิกษุสามเณร (มีสีลสามัญญตา)
       ๖. มีความเห็นร่วมกันได้กับภิกษุสามเณรอื่นๆ (มีทิฏฐิสามัญญตา);
           สารณียธรรม ก็เขียน

แสดงผลการค้น ลำดับที่  67 / 80
สุธรรมภิกษุ ชื่อภิกษุรูปหนึ่ง มีความมักใหญ่ ได้ด่าจิตตคฤหบดีและถูกสงฆ์ลงปฏิสารณียกรรม ให้ไปขอขมาคฤหบดีนั้น นับเป็นต้นบัญญัติในเรื่องนี้

แสดงผลการค้น ลำดับที่  68 / 80
หลักกำหนดธรรมวินัย หลักตัดสินธรรมวินัย หรือลักษณะตัดสินธรรมวินัย ๘ อย่าง คือ
       ก. ธรรมเหล่าใด เป็นไป
           ๑. เพื่อความย้อมใจติด
           ๒. เพื่อความประกอบทุกข์
           ๓. เพื่อความพอกพูนกิเลส
           ๔. เพื่อความมักมากอยากใหญ่
           ๕. เพื่อความไม่สันโดษ
           ๖. เพื่อความคลุกคลีในหมู่
           ๗. เพื่อความเกียจคร้าน
           ๘. เพื่อความเลี้ยงยาก,
       ธรรมเหล่านี้ พึงรู้ว่าไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่สัตถุศาสน์,
       ข. ธรรมเหล่าใดเป็นไป
           ๑. เพื่อความคลายหายติด
           ๒. เพื่อความไม่ประกอบทุกข์
           ๓. เพื่อความไม่พอกพูนกิเลส
           ๔. เพื่อความมักน้อย
           ๕. เพื่อความสันโดษ
           ๖. เพื่อความสงัด
           ๗. เพื่อการประกอบความเพียร
           ๘. เพื่อความเลี้ยงง่าย,
       ธรรมเหล่านี้พึงรู้ว่า เป็นธรรม เป็นวินัย เป็นสัตถุศาสน์

แสดงผลการค้น ลำดับที่  69 / 80
ให้กล่าวธรรมโดยบท สอนธรรมโดยให้ว่าพร้อมกันกับตน คือ ว่าขึ้นพร้อมกัน จบลงพร้อมกัน
       (สิกขาบทที่ ๓ แห่งมุสาวาทวรรค ปาจิตติยกัณฑ์)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  70 / 80
อกุปปธรรม ผู้มีธรรมที่ไม่กำเริบ
       คือ ผู้ที่เมื่อได้สมาบัติแล้ว สมาบัตินั้นจะไม่เสื่อมไปเลย ได้แก่พระอริยบุคคลทั้งหมด;
       เทียบ กุปปธรรม

แสดงผลการค้น ลำดับที่  71 / 80
อกุศลธรรม ธรรมที่เป็นอกุศล, ธรรมฝ่ายอกุศล, ธรรมที่ชั่ว, ธรรมฝ่ายชั่ว

แสดงผลการค้น ลำดับที่  72 / 80
องค์แห่งธรรมกถึก ๕ คือ
       ๑. แสดงธรรมไปตามลำดับไม่ตัดลัดให้สับสน หรือขาดความ
       ๒. ชี้แจงยกเหตุผลมาแสดงให้ผู้ฟังเข้าใจ
       ๓. สอนเขาด้วยเมตตา ตั้งจิตปรารถนาให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
       ๔. ไม่แสดงธรรมเพราะเห็นแก่ลาภ
       ๕. ไม่แสดงธรรมกระทบตนและผู้อื่น คือ ไม่ยกตน ไม่เสียดสีข่มขี่ผู้อื่น

แสดงผลการค้น ลำดับที่  73 / 80
อธรรม ไม่ใช่ธรรม, ไม่เป็นธรรม, ผิดธรรม, ชั่วร้าย

แสดงผลการค้น ลำดับที่  74 / 80
อธรรมวาที ผู้กล่าวสิ่งที่มิใช่ธรรม, ผู้ไม่พูดตามหลักไม่พูดตามธรรม, ผู้พูดไม่เป็นธรรม, ผู้ไม่เป็นธรรมวาที

แสดงผลการค้น ลำดับที่  75 / 80
อธิษฐานธรรม ธรรมที่ควรตั้งไว้ในใจ,
       ธรรมเป็นที่มั่น มี ๔ อย่าง คือ
           ๑. ปัญญา
           ๒. สัจจะ
           ๓. จาคะ
           ๔. อุปสมะ (รู้จักหาความสงบใจ)

แสดงผลการค้น ลำดับที่  76 / 80
อปริหานิยธรรม ธรรมไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม,
       ธรรมที่ทำให้ไม่เสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียว มี ๗ อย่าง
       ที่ตรัสสำหรับภิกษุ (ภิกขุอปริหานิยธรรม) ยกมาแสดงหมวดหนึ่ง ดังนี้
           ๑. หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์
           ๒. เมื่อประชุมก็พร้อมเพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุมก็พร้อมเพรียงกันเลิก และพร้อมเพรียงช่วยกันทำกิจที่สงฆ์จะต้องทำ
           ๓. ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่บัญญัติขึ้น ไม่ถอนสิ่งที่พระองค์บัญญัติไว้แล้ว สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบทตามที่พระองค์ทรงบัญญัติไว้
           ๔. ภิกษุเหล่าใด เป็นผู้ใหญ่เป็นประธานในสงฆ์ เคารพนับถือภิกษุเหล่านั้น เชื่อฟังถ้อยคำของท่าน
           ๕. ไม่ลุอำนาจแก่ความอยากที่เกิดขึ้น
           ๖. ยินดีในเสนาสนะป่า
           ๗. ตั้งในอยู่ว่า เพื่อนภิกษุสามเณรซึ่งเป็นผู้มีศีล ซึ่งยังไม่มาสู่อาวาส ขอให้มา ที่มาแล้วขอให้อยู่เป็นสุข
       อปริหานิยธรรมที่ตรัสแก่กษัตริย์วัชชี (วัชชีอปริหานิยธรรม) สำหรับผู้รับผิดชอบต่อบ้านเมือง
       มีอีกหมวดหนึ่งคือ
           ๑. หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์
           ๒. พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจที่พึงทำ
           ๓. ไม่ถืออำเภอใจบัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติไว้ ไม่ล้มล้างสิ่งที่ได้บัญญัติ ถือปฏิบัติมั่นตามวัชชีธรรม
           ๔. ท่านเหล่าใดเป็นผู้ใหญ่ในชนชาววัชชี เคารพนับถือท่านเหล่านั้น เห็นถ้อยคำของท่านว่า เป็นสิ่งอันพึงรับฟัง
           ๕. บรรดากุลสตรีกุลกุมารีทั้งหลาย มิให้อยู่อย่างถูกข่มเหงรังแก
           ๖. เคารพสักการะบูชาเจดีย์ของวัชชี ทั้งภายในและภายนอก ไม่ละเลยการทำธรรมิกพลี
           ๗. จัดให้ความอารักขาคุ้มครองป้องกันอันชอบธรรมแก่พระอรหันต์ (หมายถึงบรรพชิตที่เป็นหลักใจของประชาชน) ตั้งใจให้ท่านที่ยังมิได้มาพึงมาสู่แว่นแคว้น ที่มาแล้วพึงอยู่โดยผาสุก

แสดงผลการค้น ลำดับที่  77 / 80
อปัสเสนธรรม ธรรมเป็นที่พึ่งที่พำนักดุจพนักพิง มี ๔ คือ
       ๑. ของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วเสพ เช่น ปัจจัยสี่
       ๒. ของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วอดกลั้น ได้แก่ อนิฏฐารมณ์ต่างๆ
       ๓. ของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วเว้นเสีย เช่น สุราเมรัย การพนัน คนพาล
       ๔. ของอย่างหนึ่ง พิจารณาแล้วบรรเทาเสีย เช่น อกุศลวิตกต่างๆ

แสดงผลการค้น ลำดับที่  78 / 80
อภิญญาเทสิตธรรม ธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงด้วยพระปัญญาอันยิ่ง
       หมายถึง โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ มีสติปัฏฐาน ๔ เป็นต้น

แสดงผลการค้น ลำดับที่  79 / 80
อภิธรรมปิฎก หมวดแห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา ฝ่ายปรมัตถธรรม ว่าด้วยจิต เจตสิก รูป นิพพาน,
       เป็นปิฎกที่สามในพระไตรปิฎก;
       ดู ไตรปิฎก

แสดงผลการค้น ลำดับที่  80 / 80
อมฤตธรรม ธรรมที่ทำให้ไม่ตาย, ธรรมซึ่งเปรียบด้วยน้ำอมฤตอันทำผู้ดื่มให้ไม่ตาย หมายถึงพระนิพพาน


พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ธรรม&nextseek=1030
http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%B8%C3%C3%C1&nextseek=1030


บันทึก  ๒, ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจาก พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พิมพ์ครั้งที่ ๑๐. พ.ศ. ๒๕๔๖ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ DhammaPerfect@yahoo.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น